รวบสาวปลอมใบกำกับภาษีพันล้าน ตั้งแก๊งร่วมกับผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีทำเป็นล่ำเป็นสันโดยเปิดบริษัทค้าวัสดุก่อสร้างบังหน้า แถมลงโฆษณาขายโจ๋งครึ่มทางอินเตอร์เน็ตคิดร้อยละ 3.5 ตำรวจบุกค้นรังพร้อมเครือข่ายอีก 6 จุดถึงกับตะลึงพบใบกำกับภาษีปลอมกว่า 10,000 แผ่น ความเสียหายเฉพาะของรัฐกว่า 70 ล้านบาท แจ้งข้อหาความผิดทั้งแพ่งและอาญายาวเหยียด กลุ่มลูกค้าเริ่มหนาวเพราะตำรวจตามค้นข้อมูลเตรียมเรียกมาดำเนินคดีด้วย
ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 ก.ย. พล.ต.ต.สุรพล หอมชื่นชม ผบก.ปอท. พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผบก.ปอศ. และนายวินัย วิทวัสการเวช อธิบดีกรมสรรพากร แถลงข่าวจับกุม น.ส.สิริยากร โสมทรัพย์ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาแก๊งขายใบกำกับภาษีปลอมทางอินเตอร์เน็ต พร้อมของกลางเอกสารใบกำกับภาษีปลอมกว่า 10,000 แผ่น คอมพิวเตอร์ 6 เครื่อง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท ชุดสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บ้านเลขที่ 106/10 หมู่ที่ 6 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
นายวินัยกล่าวว่า สืบเนื่องจาก น.ส.สิริยากร ร่วมกับพวกตั้งบริษัทค้าวัสดุก่อสร้างบังหน้า และออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีการซื้อขายสินค้าจริงเพื่อนำไปขอคืนภาษี โดยประกาศขายใบกำกับภาษีปลอมผ่านทางเว็บไซต์ โดย นำชื่อบริษัทห้างร้านต่างๆมาใช้ออกใบกำกับภาษีปลอม ขายให้กับห้างร้านบริษัทและผู้ที่ต้องการใช้ใบกำกับภาษี โดยคิดราคาร้อยละ 3.5 ของมูลค่าสินค้าเพื่อนำไปใช้ เครดิตภาษี ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อและโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร หรือจ่ายเป็นเงินสด
"ต่อมาเจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาล จังหวัดธัญบุรีออกหมายจับ และบุกตรวจค้นบ้านพักหลังดังกล่าวพร้อมจับกุมผู้ต้องหา หลังจากนั้นขยายผลตรวจค้นจุดต้องสงสัยอีก 6 จุด ยึดของกลางเอกสารปลอมใบกำกับภาษีจำนวนมาก ทำให้รัฐเสียหายกว่า 70 ล้านบาท และจะเร่งติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป" นายวินัยกล่าว
นายวินัยกล่าวต่อไปว่า สำหรับใบกำกับภาษีปลอมนี้ไม่สามารถนำไปแสดงต่อกรมสรรพากรเพื่อเครดิตภาษีหรือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีได้ ถือเป็นการกระทำผิดฐานออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิออก การกระทำดังกล่าวถือเป็นการทำผิดทั้งทางแพ่งและอาญา ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 90/4 (3) ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 7 ปี ปรับตั้งแต่ 2,000-200,000 บาท และนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อัน เป็นเท็จ โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14/1 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายวินัยกล่าวด้วยว่า ส่วนผู้ซื้อใบกำกับภาษีปลอมคือผู้ประกอบการทั่วไป โดยผู้ซื้อจะนำไปใช้ในการเครดิตภาษีเพื่อขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือเสียภาษีมูลค่าเพิ่มให้ น้อยลง หรือนำไปใช้เป็นรายจ่ายเท็จในการคำนวณภาษี ถือว่ามีความผิดทั้งคดีแพ่งและอาญาเช่นกัน โดยคดีแพ่งจะถูกเรียกเก็บเบี้ยปรับ 2 เท่าของภาษีที่ต้องชำระ ส่วนคดีอาญา กรณีนำใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายมาใช้และกรณีหลีกเลี่ยงภาษีต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 7 ปี ปรับไม่เกิน 2,000-200,000 บาท ขณะนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบเอกสารและข้อมูลอีเมล์ในคอมพิวเตอร์ ที่ยึดได้ว่ามีรายชื่อของผู้ซื้อรายใดบ้าง จากนั้นต้องไล่ ตรวจสอบภาษีเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
"ขอเตือนไปยังผู้ที่ซื้อใบกำกับภาษีปลอมว่า หากตรวจสอบพบจะถือว่าเป็นผู้กระทำผิดที่ต้องถูกดำเนินคดีด้วย ทั้งนี้ ผมยอมรับว่าการกระทำผิดเกี่ยวกับการออกใบกำกับภาษีปลอมในปัจจุบันถือว่ามีวิวัฒนาการเพิ่มขึ้น จากเดิมจะไม่มีการทำอย่างเปิดเผย แต่รายล่าสุดที่จับได้ พบว่ามีการประกาศซื้อขายกันผ่านทางอินเตอร์เน็ตด้วย" นายวินัยกล่าว
ด้าน พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า จากการสอบสวน น.ส. สิริยากรให้การรับสารภาพว่า กระทำผิดมากว่า 2 ปีแล้ว มีผู้ซื้อใบกำกับภาษีปลอมไปเป็นจำนวนมาก รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้หากจับกุมไม่ได้จะสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว สำหรับผู้ต้องหาจะถูกแจ้งข้อหาส่งพนักงานสอบสวน บก.ปอท. ดำเนินคดีต่อไป